อิตาลีอ่วม ยอดติด COVID-19 ทะลุ 10,000 ออสเตรียสั่งห้ามเข้า ถ้าไม่มีใบรับรองแพทย์

อิตาลีอ่วม ยอดติด COVID-19 ทะลุ 10,000 ออสเตรียสั่งห้ามเข้า ถ้าไม่มีใบรับรองแพทย์

สื่อต่างประเทศรายงานว่า อิตาลีพบผู้ติดเชื้อ COVID-19 รายใหม่อีก 977 รายในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงมาก และทำให้ตอนนี้ อิตาลีมียอดรวมผู้ติดเชื้อ COVID-19 ในประเทศสะสมเป็นจำนวนกว่า 10,149 ราย. นอกจากนี้ยังมีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีกกว่า 168 ราย นั่นทำให้ตอนนี้ยอดผู้เสียชีวิตจาก COVID-19 สะสมทั้งหมด 631 รายแล้ว.

อิตาลี นับเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีการระบาดรุนแรงมาก เป็นรองแค่จีน 

โดยรัฐบาลอิตาลีมีมาตรการคุมเข้ม ไม่ให้ประชาชนทั่วประเทศเดินทางออกนอกเมืองที่ที่อาศัยอยู่โดยไม่ได้รับอนุญาติ ทั้งนี้เพื่อป้องกันการกระจายของเชื้อ. ด้านสำนักงานป้องกันพลเรือนของอิตาลีให้ข้อมูลว่า ถึงตอนนี้มีผู้ได้รับการรักษาปละหายจากโรค COVID-19 แล้วเป็นจำนวน 1,004 ราย แต่ขณะเดียวกันก็มีผู้ป่วยที่อาการหนักถึงขั้นต้องเข้าห้อง ICU เพิ่มขึ้นเป้นจำนวนมากเช่นกัน.

โดยล่าสุดมีรายงานว่า เซบาสเตียน คูร์ซ นายกรัฐมนตรีแห่งประเทศออสเตรีย ได้มีการออกประกาศคำสั่ง ห้ามไม่ให้ผู้ที่เดินทางมาจากอิตาลีข้ามพรมแดนเข้ามา และให้ประชนชาวออสเตรียที่เดินทางกลับมาจากปรเทศอิตาลีก็ต้องกักกันตนเอง 14 วัน. สำหรับชาวอิตาลีที่ต้องการจะเดินทางเข้ามีในประเทศออาเตรียจำในช่วงนี้จำเป็นจำต้องมีใบรับรองแพทย์ยืนยันว่าไม่ติดเชื้อโควิด-19 เพื่อควบคุมการระบาด ซึ่งตอนนี้มีผู้ติดเชื้อแล้วกว่า 182 ราย.

นอกจากนี้หลายๆประเทศในแถบยุโรปก็เริ่มมีมาตรการเกี่ยวกับ COVID-19 ออกมาเช่นกัน สเปนที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็น 1,678 ราย ต้องออกคำสั่งให้มีการจัดแข่งขันกีฬาต่างๆในสถานที่ปิดไม่มีคนดูจนถึงเดือนเมษายน ซึ่งรวมไปถึงลีกฟุตบอล ‘ลา ลีกา’ อีกด้วย. ด้านอังกฤษก็ออกมาเตือนให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางไปแระเทศอิตาลี และผู้ที่กลับมา ต้องกักตัว 14 วัน.

ด้านประเทศอื่นๆในโซนยุโรปก็เริ่มมีมาตรการควบคุม บองเมืองในเยอรมันห้ามจัดกิจกรรมที่มีผู้คนเข้าร่วมเกิน 1000 คน เดนมาร์กเตือนประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ และห้ามเดินทางไปอิตาลี และประเทศกลุ่มเสี่ยงอื่นๆ.

แม้มีงานวิจัยก่อนหน้านี้ที่ชี้ให้เห็นว่า Omicron นั้นติดเชื้อแล้วโอกาสเกิด Long COVID จะน้อยกว่าสายพันธุ์เดลต้าที่เคยระบาดเมื่อปีก่อนประมาณ 50-70% (หรือลดลงราว 2-3 เท่า) แต่อย่าลืมความจริงที่ว่า จำนวนคนที่ติดเชื้อ Omicron นั้นเยอะกว่าเดลต้าราว 3.5 เท่า ดังนั้นจำนวนจริงของปัญหา Long COVID ที่จะเกิดขึ้นจาก Omicron จึงมีโอกาสสูงกว่าเดลต้า ยิ่งหากผนวกกับความรู้ที่เราทราบกันดีว่าการติดเชื้อซ้ำ (Reinfection) ใน Omicron มากกว่าเดลต้าแล้ว ก็ยิ่งทำให้เกิดปัญหาได้มากขึ้นไปอีก ข่าวที่บอกว่า Omicron กระจอก ไม่ต้องกลัว Long COVID นั้น จึงไม่ควรหลงเชื่อ

แพทย์ต่างชาติคอนเฟิร์ม รักษาผู้ป่วย HIV หายเป็นรายที่ 2 ของโลก

ท่ามกลางสถานการณ์โรคระบาด COVID-19 ที่เรียกได้ว่ากำลังจะเข้าสู่ขั้นวิกฤติแล้วนั้น ก็ยังมีข่าวดีจากอีกฝั่งซีกโลก โดยล่าสุดมีรายงานจากสื่อต่างประเทศว่า ได้มีการค้นพบวิธีรักษาผู้ป่วยติดเชื้อ HIV ให้หายขาดได้แล้ว โดยตอนนี้มีผู้ที่ถูกฟันธงว่าหายขาดจากเชื้อ HIV แล้ว 2 ราย ทั่วโลก.

โดยชายคนที่ 2 ที่ถูกวินิจฉัยว่าหายขาดจากเชื้อ HIV คือนายอดัม คาสติลเลโย ชาวลอนดอนวัย 40 ปี โดยชายคนนี้หยุดการรับยาต้านเชื้อไวรัสมาแล้วกว่า 30 เดือน และพบว่าร่างกายของเขาปราศจากเชื้อ HIV แล้ว. ทว่านายคาสติลเลโยคนนี้ไม่ได้หายเพราะยาต้านเอชไอวีเป็นหลัก แต่มาจากการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์ ซึ่งไปหยุดการลอกเลียนตัวของเชื้อเอชไอวีในร่างกาย โดยเข้าไปแทนที่เซลล์ภูมิคุ้มกันของผู้ป่วยที่บกพร่อง ด้วยเซลล์ภูมิคุ้มกันใหม่จากสเต็มเซลล์ที่ปลูกถ่ายเข้าไป ที่ไม่บกพร่องและสามารถต้านไวรัสเอชไอวีได้ และถึงตอนนี้ก็ไม่มีการตรวจพบการเชื้อเอชไอวีในตัวของนายอดัมคนนี้เลย ทั้งในกระแสเลือด, น้ำเชื้อ หรือเนื้อเยื่อของเขา.

โดยแพทย์ที่เกี่ยวข้องให้ความเห็นระบุว่า “คนไข้ที่ปลอดเชื้อแม้ไม่ได้รับยาต้านรีโทรไวรัลนานถึง 2 ปีครึ่ง นั่นแสดงให้เห็นว่าเรามีวิธีการรักษา เอชไอวี ที่เกือบจะแน่นอนแล้ว ซึ่งมันแสดงให้เห็นว่าการรักษาเอชไอวีด้วยการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์ ที่เคยใช้เมื่อ 9 ปีก่อน สามารถทำให้เกิดขึ้นอีกได้”

อย่างไรก็ตาม การรักษาด้วยวิธีนี้จะยังไม่สามารถใช้กับผู้ป่วยหลายล้านคนทั่วโลกได้ในเร็วๆนี้ แต่ถึงอย่างนั้น ยาต้านเชื้อที่มีอยู่ในปัจจุบันก็ยังคงมีประสิทธิภาพสูงพอที่จะช่วยให้ผู้ที่ติดไวรัสตัวนี้สามารถมีชีวิตยืนยาวและแข็งแรงได้ แต่ทว่าการรักษาดังกว่าก็ยังคงเป็นความหวังที่จะพัฒนาให้เกิดการรักษาที่มีคุณภาพขึ้นไปอีก.

วันที่ 10 มีนาคม apnews รายงานว่า Giuseppe Conte นายกรัฐมนตรีอิตาลี ได้ออกประกาศปิดประเทศอิตาลีทั้งหมด หลังจากที่ก่อนหน้าได้ประกาศปิดเพียงบางเมืองที่พบการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่หรือโควิด-19 ภายใต้มาตรการดังกล่าวซึ่งมีผลบังคับใช้ทันที

ประเทศอิตาลีทั้งหมดจะกลายเป็นพื้นที่ควบคุม ผู้คนจะได้รับอนุญาตให้เดินทางเมื่อไปทำงาน หรือเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินในครอบครัวเท่านั้น ขณะเดียวกันยังมีคำสั่งห้ามการชุมนุมในที่สาธารณะ การท่องเที่ยวในยามค่ำคืน รวมถึงการแข่งขันกีฬาต่างๆ เช่น การแข่งขันฟุตบอล จะถูกระงับทั่วประเทศ

นายกฯ ประกาศผ่านสถานีโทรทัศน์ว่า ชาวอิตาลีจะต้องเปลี่ยนแปลงกิจวัตรประจำวันตั้งแต่นี้เป็นต้นไป และหนทางที่ดีที่สุดคือผู้คนจะต้องอยู่แต่ในบ้าน หลังจากที่พบการแพร่ระบาดและการเสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ชาวอิตาลีทุกคนจะต้องร่วมแรงร่วมใจกันเพื่อทำให้ประเทศดีขึ้น และต้องลงมือทำในขณะนี้ เราจะประสบความสำเร็จก็ต่อเมื่อทุกคนให้ความร่วมมือ และทำตามมาตรการที่เข้มงวด

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป